"ข้าวไรซ์เบอร์รี่" ราชินีแห่งข้าวสีม่วง ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ในช่วง "นาปรัง" (นอกฤดูฝน) ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่นาปรังแบบละเอียด ทำตามได้ง่าย รับรองผลผลิตปังแน่นอน!
การไถพรวน: ไถดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร เพื่อให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี ควรตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน เพื่อกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืช
การปรับระดับดิน: ปรับระดับดินให้สม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับน้ำในการเพาะปลูกให้ทั่วถึง
การใส่ปุ๋ยรองพื้น: หว่านปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ในอัตราที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
การเลือกเมล็ดพันธุ์: เลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ได้รับการรับรอง มีคุณภาพดี และเหมาะสมกับการปลูกในฤดูนาปรัง
การแช่และบ่มเมล็ด: นำเมล็ดพันธุ์ไปแช่น้ำสะอาดประมาณ 8-12 ชั่วโมง จากนั้นนำขึ้นมาห่อด้วยผ้าชื้น บ่มทิ้งไว้ 2-3 วัน จนเมล็ดเริ่มงอก
การหว่านกล้า: หว่านเมล็ดที่งอกแล้วลงในแปลงกล้าที่เตรียมไว้ โดยให้มีระยะห่างพอสมควร ดูแลรดน้ำและให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 20-25 วัน กล้าข้าวจะมีอายุเหมาะสมสำหรับการปักดำ
การถอนกล้า: ถอนกล้าข้าวด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้รากขาด
การปักดำ: ปักดำกล้าข้าวในแปลงนาที่เตรียมไว้ โดยมีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-25 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 25-30 เซนติเมตร การปักดำเป็นแถวเป็นแนวจะช่วยให้การดูแลจัดการง่ายขึ้น
ในช่วงแรกหลังปักดำ ควรรักษาระดับน้ำในแปลงนาให้พอดี ไม่แห้งและไม่ท่วมขัง
เมื่อข้าวเริ่มแตกกอและตั้งท้อง ควรรักษาระดับน้ำให้สม่ำเสมอ
ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว ค่อยๆ ลดระดับน้ำ เพื่อให้เมล็ดข้าวสุกแก่พร้อมกัน
ปุ๋ยครั้งแรก: ใส่ปุ๋ยในช่วงข้าวแตกกอ (ประมาณ 30-40 วันหลังปักดำ) โดยเน้นปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต
ปุ๋ยครั้งที่สอง: ใส่ปุ๋ยในช่วงข้าวตั้งท้อง (ประมาณ 60-70 วันหลังปักดำ) โดยเน้นปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง เพื่อช่วยในการสร้างเมล็ดและเพิ่มน้ำหนักรวง
ควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วย เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินและลดการใช้สารเคมี
การดูแลแปลงนา: หมั่นตรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสังเกตการระบาดของศัตรูพืชและโรค
การใช้ชีววิธี: หากพบการระบาด ควรเลือกใช้วิธีการป้องกันและกำจัดแบบชีววิธี หรือใช้สารเคมีในอัตราที่แนะนำและถูกวิธี เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค
สังเกตสีของรวงข้าว เมื่อรวงข้าวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองประมาณ 80-85% และเมล็ดข้าวเริ่มแข็ง ก็เป็นสัญญาณว่าข้าวพร้อมเก็บเกี่ยว
ควรเก็บเกี่ยวในช่วงที่อากาศแห้ง เพื่อให้เมล็ดข้าวมีความชื้นต่ำและลดความเสียหายจากการเก็บรักษา
การทำนาดำ: การทำนาดำจะช่วยควบคุมวัชพืชได้ดีกว่าการทำนาหว่าน
การปลูกพืชหมุนเวียน: การปลูกพืชหมุนเวียนหลังการเก็บเกี่ยวข้าว จะช่วยปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม: ติดตามข่าวสารและเทคโนโลยีการปลูกข้าวใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ
การปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่นาปรังอาจต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียด แต่หากทำตามขั้นตอนและเคล็ดลับที่เรานำมาฝากนี้ รับรองว่าคุณจะสามารถปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้อย่างประสบความสำเร็จ ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างรายได้ที่น่าพอใจอย่างแน่นอนครับ!
หน้าที่เข้าชม | 662 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 447 ครั้ง |
เปิดร้าน | 29 มิ.ย. 2568 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |